ทางแก้หนังศีรษะอักเสบ เป็นตุ่ม เห็นผลชัด ปลอดภัยชัวร์

Healthy Hair & Scalp Secrets

ทางแก้หนังศีรษะอักเสบ เป็นตุ่ม เห็นผลชัด ปลอดภัยชัวร์

เมื่อพูดถึงศีรษะ คนส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับการดูแลเส้นผมเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการสระผม การย้อมผม การทำทรีทเม้นท์ผม หรือการดูแลด้วยวิธีอื่นๆ แต่นอกจากเส้นผมแล้ว ส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือหนังศีรษะหรือหนังหัว เนื่องจากมีหน้าที่หล่อเลี้ยงรากผม และทำให้เส้นผมแข็งแรง ดกดำ มีสุขภาพดี

และหนึ่งในปัญหาหนังศีรษะที่มักพบได้ในคนทั่วไป โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้น คืออาการหนังศีรษะอักเสบ เป็นตุ่ม มีลักษณะคล้ายสิว ซึ่งสร้างความทรมานให้คนจำนวนมาก แล้วอาการนี้เกิดจากสาเหตุอะไร ใช่สิว หรือไม่ แล้วจะมีแก้ไขได้อย่างไรบ้าง มาดูวิธีได้ในบทความนี้

อาการที่พบบ่อยเมื่อหนังศีรษะอักเสบ

โรคหนังศีรษะอักเสบ (Seborrheic Dermatitis) ที่ทำให้หนังหัวเป็นตุ่มนั้น เป็นโรคเรื้อรังที่หากเป็นครั้งหนึ่งแล้ว ก็มักจะเป็นๆ หายๆ อยู่เสมอ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้ที่มีเส้นผมและหนังศีรษะมัน โดยโรคนี้มีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของเชื้อราจำพวก Malassezia Globosa ซึ่งมาเปลี่ยนสภาพไขมันบนหนังศีรษะ ทำให้เกิดการอักเสบขึ้น โดยอาการที่พบบ่อยและเป็นสัญญาณเตือนว่าหนังศีรษะมีอาการอักเสบ ได้แก่

  • มีตุ่มแดงขึ้น เป็นไต มีลักษณะคล้ายสิว

  • มีหนังศีรษะลอกเป็นขุย เป็นรังแค

  • มีเชื้อราบนหนังศีรษะ

  • เป็นผื่นแดง อาจมีอาการคันร่วมด้วย

  • เส้นผมหลุดร่วงผิดปกติ

จากอาการของโรคหนังศีรษะอักเสบที่เรากล่าวถึงไปทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าในกลุ่มคนที่มีปัญหาหนังศีรษะอักเสบ และเป็นตุ่มนั้น ตุ่มเหล่านี้ไม่ใช่สิว แต่เป็นหนึ่งในอาการของการอักเสบ ซึ่งควรได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อให้อาการดีขึ้นโดยเร็ว

สาเหตุที่ทำให้หนังหัวเป็นตุ่ม

อาการตุ่มขึ้นบนหนังศีรษะ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุที่พบโดยทั่วไป ได้แก่

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย

  • กรรมพันธุ์

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา

  • การแพ้สารเคมีจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม

  • สภาพแวดล้อม เช่น ความร้อน ความชื้น ฝุ่นละออง ควัน

  • พฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ ดื่มแอลกอฮอล์ มีความเครียดสูง 

ผู้หญิงกำลังสระผมอย่างถูกวิธี เพื่อแก้ปัญหาหนังหัวเป็นตุ่ม

แนวทางการแก้ปัญหาหนังศีรษะอักเสบ เป็นตุ่ม

มีปัญหาหนังศีรษะอักเสบ เป็นตุ่ม มีเชื้อรา รังแค และปัญหาอื่นๆ อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาการอาจรุนแรงขึ้น ส่งผลให้โพรงเส้นผมอักเสบและรากผมอ่อนแอ ทำให้คุณมีอาการผมร่วงผิดปกติ ก่อให้เกิดปัญหาผมบาง ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาในระยะยาวได้ โดยเรามีแนวทางการแก้ปัญหาที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ มาแนะนำ ดังนี้

1. สระผมอย่างถูกวิธีเป็นประจำ

สิ่งแรกที่ควรทำ เมื่อเกิดปัญหาหนังหัวเป็นตุ่ม คือการดูแลความสะอาดเส้นผม และหนังศีรษะ โดยสระผมเป็นประจำทุกๆ 1-2 วัน และเลือกใช้แชมพูที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบของหนังศีรษะ ช่วยฆ่าเชื้อรา รวมทั้งหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมของสารเคมี เพราะอาจทำให้เกิดอาการอักเสบรุนแรงขึ้นได้

2. ใช้ทรีทเม้นท์ที่มีส่วนช่วยดูแลหนังศีรษะ

ทำความสะอาดเส้นผมอย่างถูกวิธีแล้ว ก็ต้องไม่ลืมบำรุงหนังศีรษะด้วยการเลือกใช้ทรีทเม้นท์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติ เช่น มะกรูด เหง้าขิง มะขามป้อม และปราศจากสารเคมีตกค้าง เพื่อกำจัดเชื้อโรค ยับยั้งการเติบโตของเชื้อรา และลดการหลุดร่วงของเส้นผม

3. หลีกเลี่ยงการแกะเกาตุ่มที่เกิดขึ้นบนหนังศีรษะ

หลายคนมักเคยได้ยินว่าเป็นสิวห้ามแกะเกา เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบ ตุ่มที่เกิดขึ้นบนหนังศีรษะก็เช่นกัน อย่าแกะหรือเกาจะเป็นการดีที่สุด เพราะเชื้อโรคจากมือและเล็บอาจทำให้มีการอักเสบที่รุนแรงขึ้นและอาการแย่ลงได้

4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม และหนังศีรษะ

สุดท้าย เป็นวิธีการแก้ปัญหาจากภายใน คือการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม และหนังศีรษะ ได้แก่ อาหารที่มีไบโอติน วิตามินซี สังกะสี ธาตุเหล็ก โอเมก้า 3 และโปรตีน ช่วยลดผมขาดหลุดร่วงและฟื้นฟูหนังศีรษะให้กลับมาแข็งแรงได้เป็นอย่างดี

มองหาทรีทเม้นท์เพื่อช่วยบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะ เลือกทรีทเม้นท์มะกรูดจาก Kaff & Co. มีส่วนผสมของน้ำมันมะกรูดสกัดเย็น เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นประจำ ช่วยลดปัญหาผมหงอก ยืดอายุหนังศรีษะไม่ให้แก่ก่อนวัย ลดอาการหนังศีรษะอักเสบและเป็นตุ่ม รวมถึงดูแลหนังศีรษะ และเส้นผมให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 095-973-5015 และ LINE Official @kaffandco หรือเลือกซื้อสินค้าราคาโปรโมชั่นได้ที่เว็บไซต์ของเรา

ข้อมูลอ้างอิง: 

  1. รังแคและภาวะหนังศีรษะอักเสบ. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 จาก https://www.thaihealth.or.th/รังแคและภาวะหนังศีรษะอ/

  2. "ตุ่มแดง เจ็บหนังศีรษะ รักษาอย่างไร" : หมออยากตอบ :【คุยกับหมออัจจิมา. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 จาก https://www.youtube.com/watch?v=FLmTmA9NeZs 

แชร์สาระน่ารู้นี้
ให้เราช่วยเหลือคุณ ?