แพ้สบู่ มีอาการอย่างไร? อันตรายจากการใช้สบู่ที่มีสารเคมี
Healthy Hair & Scalp Secrets
สบู่ที่ใช้ทำความสะอาดผิวกายในชีวิตประจำวัน อาจดูเหมือนปลอดภัย แต่รู้หรือไม่ว่าสบู่บางชนิดอาจมีส่วนผสมของสารเคมีซ่อนอยู่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการแพ้และระคายเคืองผิว
บทความนี้จะขอพาไปเจาะลึกถึงสารเคมีที่พบได้ในสบู่ทั่วไป พร้อมวิธีสังเกตอาการแพ้ เพื่อให้ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เลือกใช้ได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพผิวมากที่สุด
สารเคมีในสบู่มีอะไรบ้าง?
สบู่ทั่วไปมักมีสารเคมีหลายชนิดที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและอาการแพ้ การรู้จักสารเหล่านี้เอาไว้ นอกจากจะช่วยหลีกเลี่ยง ยังทำให้สามารถเลือกใช้สบู่ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย
1. Sodium Lauryl Sulfate (SLS) และ Sodium Laureth Sulfate (SLES)
สารทั้งสองชนิดนี้ทำหน้าที่สร้างฟองและลดแรงตึงผิว แม้จะช่วยให้สบู่ทำความสะอาดได้ดี แต่ก็มีฤทธิ์รุนแรงพอที่จะทำลายชั้นไขมันบนผิวหนัง ส่งผลให้ผิวแห้งกร้านและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
2. Triclosan
นอกจากสารที่ทำให้เกิดฟองแล้ว Triclosan ยังเป็นหนึ่งในสารที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาด โดยช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งดูเหมือนจะมีประโยชน์ แต่หากสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกัน กล้ามเนื้อ และการทำงานของหัวใจได้ นอกจากนี้ ยังอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ในบางคนด้วย
3. MIT (Methylisothiazolinone)
ในขณะที่ Triclosan มุ่งเน้นการกำจัดแบคทีเรีย MIT เป็นสารกันเสียที่ใช้ป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียในสบู่ อย่างไรก็ตาม สารนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง ผื่นแดง หรือแม้แต่อาการแพ้รุนแรงในบางกรณี
4. Paraben
ในกลุ่มของสารกันเสีย Paraben เป็นอีกหนึ่งสารที่พบได้บ่อยในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แม้จะมีประสิทธิภาพในการยืดอายุผลิตภัณฑ์ แต่ก็มีงานวิจัยที่เชื่อมโยงสารนี้กับการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุของการแพ้และระคายเคืองผิวสำหรับผู้ใช้หลายๆ คนด้วย
5. Formaldehyde
ในกลุ่มของสารกันบูด Formaldehyde เป็นสารที่มีฤทธิ์รุนแรงอีกประเภทหนึ่ง พบได้ในสบู่บางชนิด ที่นอกจากจะทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองอย่างรุนแรงแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย
6. Fragrance (น้ำหอม)
นอกจากสารที่มีหน้าที่เฉพาะแล้ว น้ำหอมยังเป็นสารอีกหนึ่งตัวที่ช่วยเพิ่มความน่าใช้ให้แก่ผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ แม้จะให้กลิ่นหอมน่าใช้ แต่ก็ประกอบด้วยสารสังเคราะห์หลายชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย
7. Dyes (สี)
เช่นเดียวกับน้ำหอม สีสังเคราะห์เป็นอีกหนึ่งสารที่เพิ่มความน่าสนใจให้แก่สบู่ แต่ก็อาจเป็นสาเหตุของอาการแพ้และระคายเคือง โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายได้เช่นกัน
วิธีสังเกตอาการแพ้สบู่
สำหรับคนที่แพ้สบู่อาจแสดงอาการได้หลายรูปแบบ โดยอาจสังเกตได้ดังนี้
-
ผิวแดงหรือระคายเคือง
สำหรับผู้ที่แพ้สบู่ มักเกิดอาการนี้เมื่อใช้สบู่เสร็จ โดยจะสามารถสังเกตเห็นผิวเป็นรอยแดงหรือรู้สึกแสบร้อน โดยลักษณะผิวแดงระคายเคืองที่เกิดขึ้น จะแสดงให้เห็นว่า ผิวของเรากำลังต่อต้านส่วนผสมบางอย่างที่อาจรุนแรงเกินไป ร่างกายจึงส่งสัญญาณเตือนเพื่อบอกว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจไม่เหมาะกับสภาพผิวของเรา
-
ผิวแห้งและลอกเป็นขุย
นอกจากอาการระคายเคืองเฉียบพลัน การใช้สบู่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้ผิวแห้งผิดปกติและลอกเป็นขุยได้ ทั้งนี้เพราะสบู่อาจทำลายชั้นไขมันธรรมชาติบนผิวหนัง ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว
-
ผื่นหรือจุดแดง
ในขณะที่ผิวแห้งลอก บางครั้งอาการแพ้อาจปรากฏเป็นผื่นหรือจุดแดงตามร่างกายร่วมด้วย ซึ่งอาจเกิดขึ้นทันทีหรือหลังใช้สบู่ไปสักพัก ขึ้นอยู่กับความไวของผิวแต่ละคน
-
ผิวหนังเกิดแผลหรืออาการคัน
หากปล่อยให้อาการแพ้ลุกลาม อาจนำไปสู่อาการรุนแรงขึ้น เช่น คันหรือเกิดแผลบนผิวหนัง ในกรณีนี้ ควรหยุดใช้สบู่ทันทีและปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจรุนแรงขึ้น
-
อาการบวมรอบดวงตาหรือปาก
ในกรณีรุนแรงที่สุด อาการแพ้อาจส่งผลต่อบริเวณอ่อนไหว เช่น รอบดวงตาและปาก ซึ่งหากเกิดอาการบวมในบริเวณเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมา
วิธีเลือกสบู่ที่ปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ ข้างต้น เรามีวิธีเลือกสบู่ที่ปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิวมาแนะนำ
-
อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด
ก่อนซื้อสบู่ ควรตรวจสอบส่วนผสมบนฉลากอย่างถี่ถ้วน โดยให้ความสำคัญกับการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มี Parabens, SLS หรือน้ำหอมสังเคราะห์ เนื่องจากสารเหล่านี้มักก่อให้เกิดการระคายเคือง ในทางกลับกัน ควรมองหาผลิตภัณฑ์สบู่ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพราะนอกจากจะอ่อนโยนต่อผิวแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงในการแพ้ได้อีกด้วย
-
เลือกสบู่ที่ปราศจากน้ำหอม
เนื่องจากน้ำหอมมักประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิด ดังนั้น การเลือกสบู่ที่ไม่มีน้ำหอมจึงช่วยให้ผิวสบายขึ้น ลดโอกาสเกิดการระคายเคือง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการแพ้ได้เช่นกัน
-
เลือกสบู่ที่มีสารบำรุงผิว
การเลือกสบู่ที่มีสารบำรุงผิวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ โดยควรเลือกสบู่ที่มีส่วนผสมของกลีเซอรีนหรือเชียบัตเตอร์ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดการแห้งกร้าน และรักษาความชุ่มชื้นได้ยาวนาน นอกจากนี้ ผิวที่ชุ่มชื้นแข็งแรง จะทนต่อการระคายเคืองได้ดีขึ้นอีกด้วย
-
ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์กับผิวก่อนซื้อ
สุดท้าย แม้จะเลือกสบู่ตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว แต่ก่อนใช้จริง ควรทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ในบางส่วนของร่างกายก่อน เช่น บริเวณข้อมือหรือหลังใบหู จากนั้นให้ทิ้งไว้สักครู่แล้วสังเกตอาการ หากไม่พบอาการแพ้หรือระคายเคือง จึงค่อยใช้ทั่วร่างกาย วิธีนี้นอกจากจะช่วยป้องกันการแพ้รุนแรงแล้ว ยังทำให้มั่นใจได้ว่า สบู่ที่เลือกใช้ปลอดภัยกับผิวของเราอย่างแท้จริง
มองหาสบู่อาบน้ำ เลือก Kaff & Co. ตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่าย
หากคุณกำลังมองหาสบู่อาบน้ำที่ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่าย และปราศจากสารเคมีอันตราย ขอแนะนำ Kaff & Co. ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวกายสูตรธรรมชาติ ที่โดดเด่นด้วยการสกัดจากสมุนไพรไทยเข้มข้น ไม่มีการใช้สารเคมีอันตรายที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือสารตกค้างสะสม ทั้งยังมีงานวิจัยรองรับ และผ่านการทดสอบจากผู้ใช้จริง ซึ่งยืนยันถึงความปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 095-973-5015 และ LINE Official @kaffandco หรือเลือกซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ในราคาโปรโมชั่นได้ที่เว็บไซต์ของเรา
ข้อมูลอ้างอิง
-
มีอาการแสบร้อนที่ผิวเมื่อมีการใช้สบู่ คืออาการแพ้สบู่ใช่ไหม. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567. จาก https://www.pobpad.com/ถาม/หัวข้อ/นี่คืออาการแพ้สบู่ใช่ใ.
-
4 สารอันตรายในฟองใสๆ และครีมนุ่มผิว. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567. จาก https://www.thaihealth.or.th/4-สารอันตรายในฟองใสๆ-และ-2/.
-
Triclosan. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567. จาก https://my.clevelandclinic.org/health/articles/24280-triclosan.
-
The chemistry of soap making. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567. จาก https://www.reagent.co.uk/blog/chemistry-of-soap-making/.